นักวิจัยมือใหม่กับบทความวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์

ของคณะวิชา: คณะบัญชี

การตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสาร

ผศ.ดร.คณิตศร เทอดเผ่าพงศ์ คณะบัญชี

ผู้ดำเนินการปฏิบัติได้ประยุกต์ใช้ความรู้ของ ผศ.ดร.คณิตศร เทอดเผ่าพงศ์ ที่ได้ถอดประสบการณ์การเรียนรู้และเผยแพร่ไว้ในปีการศึกษา 2562 เรื่อง การตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสาร ซึ่งผลงานนี้ได้รับรางวัล KM ประจำปีการศึกษา 2562 ดังนั้นจากการประยุกต์ใช้ความรู้เดิมจากผลงานที่ผ่านมาทำให้ผู้ดำเนินการปฏิบัติมีวิธีการดำเนินงาน ดังนี้
1. จุดเริ่มต้นของงานวิจัย เริ่มต้นจากการหาหัวข้อที่ผู้วิจัยมีความถนัด มีใจรักและมีความสนใจ และต้องเป็นหัวข้อที่ใหม่และทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะได้รับการตอบรับจากวารสาร รวมถึงการกำหนดชื่อเรื่องต้องมีความน่าสนใจชัดเจนตรงประเด็นและสื่อว่าต้องการจะศึกษาหรือหาคำตอบในเรื่องใด โดยการกำหนดหัวข้อนั้นจะเริ่มจากการทบทวนวรรณกรรมต่าง ๆ จากการค้นหาด้วย Keywords จากวารสารออนไลน์ต่าง ๆ หรือฐานข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งในการทบทวนวรรณกรรมก็เพื่อที่จะหา Gap เข้าไปศึกษาต่อในเรื่องนั้น ๆ นอกจากนี้ควรทำการสืบค้นจากเอกสารอ้างอิงหรือบรรณานุกรมของงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่เป็นปีปัจจุบันแล้วสืบค้นย้อนลงไปในปีอดีต เมื่อทำการทบทวนวรรณกรรมมากพอผู้วิจัยจะทราบว่าหัวข้อวิจัยที่คิดไว้นั้นสามารถที่จะทำได้หรือไม่ ถ้าได้ก็ทำการกำหนดหัวข้อการวิจัยให้เหมาะสมและให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการศึกษา
การปฏิบัติจริง: ผู้ดำเนินการปฏิบัติได้ทบทวนวรรณกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจึงทำให้ได้หัวข้อวิจัย คือ ความเกี่ยวข้องในการอธิบายราคาหลักทรัพย์ของมูลค่าตามบัญชีและกำไรต่อหุ้น ภายใต้ TFRS 15 ก่อนและหลังการถือปฏิบัติในช่วงแรก : หลักฐานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยความใหม่ของเรื่องนี้คือ TFRS 15 (มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 15 เรื่อง รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า) ที่เพิ่งเริ่มมีผล
เอกสารแนบ 1
บังคับใช้กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และงานวิจัยเรื่องนี้เป็นงานวิจัยด้านตลาดทุนกับการใช้ข้อมูลทางบัญชี ซึ่งเป็นวิจัยด้านที่ผู้ดำเนินการปฏิบัติมีความถนัด รักและสนใจเป็นพิเศษอย่างยิ่งจึงทำให้รู้สึกว่ามีความสุขและจะสนุกไปกับการทำวิจัย
2. การค้นหาวารสารการวิจัยเพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ ทำการค้นหาวารสารจากเว็บไซด์ https://tci-thailand.org จากนั้นไปที่เมนู “ฐานข้อมูล TCI ➔ รายชื่อวารสารในฐานข้อมูล TCI” เพื่อค้นหาวารสารที่มีความน่าเชื่อถือ เกี่ยวข้องกับสาขาที่สนใจ โดยสามารถค้นหาวารสารจาก Keywords เกี่ยวกับสาขาที่ต้องการ เช่น บัญชี/บริหาร/การจัดการ เมื่อได้วารสารที่สนใจแล้วให้ศึกษาวัตถุประสงค์หรือขอบเขตของวารสารนั้น ๆ ว่าเกี่ยวข้องกับงานวิจัยของเราหรือไม่ จากนั้นให้สำรวจบทความที่ลงตีพิมพ์ไว้ก่อนหน้านี้เพื่อดูแนวโน้มของบทความส่วนใหญ่ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเป็นเรื่องที่อยู่ใน Theme เดียวกับงานวิจัยของผู้วิจัยหรือไม่ เพื่อให้เรามีความมั่นใจว่าบทความวิจัยของเรามีโอกาสสูงที่จะได้รับการตอบรับตีพิมพ์จากวารสารนี้
การปฏิบัติจริง: ผู้ดำเนินการปฏิบัติได้เลือกวารสารวิชาชีพบัญชี ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งอยู่ในฐาน TCI กลุ่มที่ 1 และอยู่ในฐานข้อมูล ASEAN Citation Index (ACI) ซึ่งเป็นวารสารที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสาขาบัญชี รวมถึงงานวิจัยของผู้ดำเนินการปฏิบัติเองก็เป็นงานวิจัยที่อยู่ใน Theme ของวารสารนี้ จึงทำให้มั่นใจว่าจะมีโอกาสในการได้รับการตอบรับการตีพิมพ์ในวารสารฉบับนี้
3. การเขียนบทความวิจัยจนสมบูรณ์และการอ้างอิงที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ เมื่อได้วารสารที่ต้องการตามหัวข้อที่ 2 แล้ว ผู้วิจัยต้องทำการศึกษาแบบฟอร์มของบทความเพื่อให้การเขียนบทความอยู่ในรูปแบบที่ถูกต้องของวารสารตั้งแต่ต้น จากนั้นก็เริ่มเขียนบทความตามหัวข้อต่าง ๆ ตามที่วารสารกำหนด และสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเขียนบทความคือการเขียนเอกสารอ้างอิงให้ถูกต้องและครบถ้วนเพื่อเป็นการยืนยันว่างานวิจัยที่ได้จัดทำขึ้นมีแนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยในอดีตที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับมาสนับสนุน
4. Paper Submission ผ่านระบบ Online ไม่ยากอย่างที่คิด การส่งบทความผ่านระบบ Online มีความง่ายและสะดวกมาก เนื่องจากระบบถูกออกแบบมาให้กรอกข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น
การปฏิบัติจริง: รายละเอียดการกรอกข้อมูลในการส่งบทความ มีดังนี้ 1) กรอกข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้นในการลงทะเบียนครั้งแรกเท่านั้น 2) กรอกชื่อเรื่องผลงาน 3) ระบุประเภทของผลงานว่าเป็นบทความวิจัยหรือบทความวิชาการ และ 4) แนบไฟล์ผลงาน (ไฟล์ Word) ทั้งนี้ระบบจะมีข้อความแจ้งเตือนเมื่อทำการกรอกข้อมูลไม่ครบหรือไม่ถูกต้อง
5. ค่าธรรมเนียมในการตีพิมพ์บทความวิจัย ในแต่ละวารสารจะมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน บางวารสารไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม แต่บางวารสารเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในราคา 6,000 บาท หรือราคาค่าธรรมเนียมอาจขึ้นอยู่กับความเป็นสมาชิกของวารสาร เช่น ผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกของวารสารอาจถูกเรียกเก็บในราคาที่สูงกว่าราคาสมาชิก
การปฏิบัติจริง: วารสารวิชาชีพบัญชี ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการตีพิมพ์บทความวิจัย ซึ่งวารสารวิชาชีพบัญชี เป็นวารสารที่อยู่ในฐาน TCI กลุ่มที่ 1 และฐาน ACI แสดงให้เห็นว่า “ของดีและฟรีมีอยู่จริง”
6. การแก้ไขบทความวิจัยตามคำแนะนำจากผู้ทรงคุณวุฒิ ในส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่ผู้ดำเนินการปฏิบัติได้ทำการแก้ไขบทความวิจัยตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ถ้ามีส่วนไหนที่ไม่ได้แก้ไขตามคำแนะนำผู้วิจัยจะต้องอธิบายเหตุผลสนับสนุนอย่างเหมาะสมและเชื่อถือได้ มีหลักฐาน ทฤษฎี หรืองานวิจัยในอดีตมาอ้างอิง นอกจากนี้ผู้วิจัยต้องทำการแก้ไขและส่งบทความวิจัยฉบับแก้ไขภายในระยะเวลาที่วารสารกำหนด
การปฏิบัติจริง: ผลงานวิจัยของผู้ดำเนินการปฏิบัติได้แก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิประมาณ 85% ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 15% ผู้ดำเนินการปฏิบัติได้ยืนยันผลงานเดิมโดยได้อธิบายเหตุผลและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาสนับสนุนว่าผลงานเดิมนั้นมีความถูกต้องแล้ว โดยทางวารสารได้ให้ระยะเวลาในการแก้ไขและส่งบทความกลับภายใน 15 วัน
7. หนังสือตอบรับการตีพิมพ์คือเส้นชัยแห่งความสำเร็จ ทางวารสารจะทำการส่งหนังสือตอบรับการตีพิมพ์ทางอีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้พร้อมทั้งแจ้งว่าบทความวิจัยได้ลงตีพิมพ์ในวารสารฉบับที่เท่าไร และทางวารสารจะขึ้นสถานะบทความวิจัยในระบบว่าตอบรับการตีพิมพ์แล้ว

จากการดำเนินงานที่เกิดจากการประยุกต์ความรู้เดิมทำให้ผู้ดำเนินการปฏิบัติเกิดผลงานเชิงประจักษ์และเกิดประโยชน์ที่สืบเนื่องจากผลงาน ดังนี้
1. ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาชีพบัญชีแล้วจำนวน 1 ผลงาน อยู่ในฐาน TCI กลุ่มที่ 1 และเป็นวารสารที่ได้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกและได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการของ ACI ให้เข้าสู่ฐานข้อมูล ASEAN Citation Index (ACI) ชื่อเรื่องของผลงานคือ ความเกี่ยวข้องในการอธิบายราคาหลักทรัพย์ของมูลค่าตามบัญชีและกำไรต่อหุ้น ภายใต้ TFRS 15 ก่อนและหลังการถือปฏิบัติในช่วงแรก : หลักฐานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาชีพบัญชี ปีที่ 16 ฉบับที่ 52 (ฉบับเดือน ต.ค.-ธ.ค. 2563)
2. ขณะนี้ได้ส่งตีพิมพ์อีกจำนวน 2 ผลงาน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิของวารสาร โดยจำนวน 1 ผลงาน เรื่อง ความเกี่ยวข้องของข้อมูลทางบัญชีในการอธิบายราคาหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนไทยในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยส่งไปตีพิมพ์ยังวารสารวิชาชีพบัญชี ซึ่งอยู่ในฐาน TCI กลุ่มที่ 1 และฐาน ACI ส่วนอีกจำนวน 1 ผลงาน เรื่อง ผลกระทบของนโยบายการบัญชีตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 27 ต่อการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ส่งไปตีพิมพ์ยังวารสารวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ซึ่งอยู่ในฐาน TCI กลุ่มที่ 2
3. เมื่อบทความวิจัยได้รับการตอบรับและตีพิมพ์เผยเเพร่ครบแล้วทั้ง 3 ผลงาน ผู้ดำเนินการปฏิบัติจะนำผลงานดังกล่าวส่งต่อคณะและมหาวิทยาลัยเพื่อยื่นขอดำรงตำแหน่งทางวิชาการต่อไป
4. ผลงานดังกล่าวยังมีประโยชน์ต่อคณะและมหาวิทยาลัยในเรื่องของการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน (IQA) และมีประโยชน์ต่อผู้ดำเนินการปฏิบัติเองในเรื่องของการพัฒนาความรู้และทักษะการทำวิจัยสู่การเผยแพร่ต่อสาธารณะและสามารถนำผลงานดังกล่าวมารับการประเมินความดีความชอบในการปฏิบัติงานประจำปี นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของนักศึกษาในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทของคณะบัญชีโดยตรงเมื่องานวิจัยนี้ได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่

จากการได้นำความรู้และเทคนิคที่ได้จากการถอดประสบการณ์การเรียนรู้ของ ผศ.ดร.คณิตศร เทอดเผ่าพงศ์ มาประยุกต์ใช้ ทำให้ผู้ดำเนินการปฏิบัติสามารถสรุปเป็นตารางเปรียบเทียบความรู้เดิมและการประยุกต์ใช้ความรู้สู่รายงานความรู้หรือแนวปฏิบัติที่เกิดขึ้นใหม่

ดังตารางสรุปเปรียบเทียบความรู้เดิมและการประยุกต์ใช้ความรู้

ดังนั้นจากตารางข้างต้นจึงสรุปได้ว่าการนำความรู้เดิมมาประยุกต์ใช้ทำให้พบว่านอกจากขั้นตอนต่าง ๆ ที่ความรู้เดิมเคยรายงานไว้ ยังมีขั้นตอนหรือสิ่งที่ผู้วิจัยต้องรู้เพิ่มเติม ได้แก่
- การศึกษาแบบฟอร์มของวารสารและการอ้างอิงให้มีความครบถ้วน ถูกต้องและเชื่อถือได้
- ราคาค่าธรรมเนียมในการตีพิมพ์ของวารสารต่าง ๆ
- ช่องทางการได้รับหนังสือตอบรับการตีพิมพ์บทความวิจัย
ทั้งนี้ผู้ดำเนินการปฏิบัติในฐานะนักวิจัยมือใหม่ขอพิสูจน์ว่าการนำความรู้เดิมมาประยุกต์ใช้นั้นทำให้ประสบความสำเร็จจนเป็นที่ประจักษ์โดยการได้รับการตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารวิชาชีพบัญชี ปีที่ 16 ฉบับที่ 52 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นวารสารที่อยู่ในฐาน TCI กลุ่มที่ 1 และอยู่ในฐานข้อมูล ASEAN Citation Index (ACI) และสุดท้ายนี้การเป็นนักวิจัยมือใหม่จึงอาจเริ่มต้นจากการหาวารสารในประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับและมีความน่าเชื่อถือ เช่น วารสารนั้นอยู่ในฐาน TCI กลุ่มที่ 1 และอยู่ในฐานข้อมูล ASEAN Citation Index (ACI) เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาตนเองจนไปสู่การตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารนานาชาติต่อไป