ความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนของอาจารย์
1. ความจำเป็นด้านการเสริมสร้างทักษะพื้นฐานทางการสอน
สภาพการณ์ที่เป็นจริงของการจัดการเรียนการสอนในสถาบันอุดมศึกษา ผู้ที่ผ่านกระบวนการสรรหา คัดเลือก และบรรจุให้ดำรงตำแหน่ง “อาจารย์”นั้น มาจากบุคคล 2 ประเภท คือ ประเภทแรกคือผู้ที่จบการศึกษามาทางสายวิชาครูโดยตรง ซึ่งหมายถึงผู้สำเร็จการศึกษาด้านศึกษาศาสตร์หรือครุศาสตร์ เอกทางสาขาใดก็ตาม หรือ กับอีกประเภทหนึ่ง คือผู้ที่สำเร็จการศึกษามาทางสาขาวิชาชีพอื่นๆ ซึ่งอาจารย์ทั้ง 2 ประเภท มีจุดได้เปรียบเสียเปรียบต่างกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จุดที่เป็นข้อเสียเปรียบประการสำคัญของกลุ่มอาจารย์ที่สำเร็จการศึกษามาทางสาขาวิชาชีพ คือ การขาดทักษะพื้นฐานทางการสอน เนื่องจากไม่เคยผ่านกระบวนการเรียนรู้และฝึกฝนในเรื่องเหล่านี้มาก่อน ดังนั้น จึงพบได้เสมอว่า อาจารย์หลายท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในศาสตร์สาขานั้นๆ เป็นอย่างยิ่ง แต่เวลาสอนกลับได้รับการสะท้อนจากผู้เรียนว่าเรียนไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจที่อาจารย์สอน ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่อาจารย์ซึ่งไม่ได้จบการศึกษามาทางสายวิชาครูโดยตรง จะเริ่มงานสอนแก่นิสิตนักศึกษา จึงจำเป็นต้องได้รับการเติมเต็มความพร้อมในส่วนทักษะพื้นฐานทางการสอน ด้วยกิจกรรมการพัฒนาในรูปแบบที่เหมาะสม
2. ผู้สอนต้องได้รับการเพิ่มพูนและปรับปรุงความรู้ให้ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลง
ทุกวันนี้สังคมโลกตกอยู่ท่ามกลางกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลง ความก้าวล้ำของวิทยาการ องค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ ถือกำเนิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบนาทีต่อนาที มีทฤษฎีเก่ามากมายที่เกิดขึ้นมานานและได้รับความเชื่อถือในความถูกต้องมาโดยตลอด แต่มาวันนี้กลับถูกพิสูจน์หักล้างจากแนวคิดทฤษฎีใหม่ อาจารย์ผู้สอนยุคสมัยนี้ จึงไม่อาจที่จะแช่แข็งตนเองอยู่กับเนื้อหาและวิธีการเรียนการสอนแบบเดิมที่เคยทำมา โดยไม่ลุกขึ้นมาปรับปรุงตัวให้เท่าทันกับความเป็นปัจจุบัน และอาจจะต้องคาดการณ์หรือพยากรณ์มองข้ามเลยไปถึงอนาคตด้วยซ้ำไป ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่มีสิ่งใหม่อันเกี่ยวข้องกับแวดวงการศึกษาหรือการจัดการเรียนการสอน ที่อาจารย์ผู้สอนระดับอุดมศึกษามีความจำเป็นต้องรู้ หรือควรจะรู้ ทางสถาบันโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ ต้องเร่งเข้าไปดำเนินการจัดให้อาจารย์ผู้สอนได้รับข้อมูลเหล่านั้นอย่างทันท่วงที
3. การดำเนินตามนโยบายและกลยุทธ์ทางการศึกษาของรัฐและของสถาบัน
สถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งต้องมีการดำเนินการทางการศึกษา ภายใต้การควบคุมเชิงนโยบายและกลยุทธ์จากทั้งภายนอกและภายในสถาบัน ในส่วนของการควบคุมภายนอกที่สำคัญได้แก่ การต้องดำเนินการจัดการศึกษาให้สอดรับกับแนวทางและเป้าหมาย ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 รวมถึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์การประเมินคุณภาพภายนอก ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ.นอกจากนั้น ยังต้องสามารถสร้างบัณฑิตให้มีคุณลักษณะตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 (TQF : HEd) ดังนั้น สถาบันอุดมศึกษาจึงมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน เสริมสร้าง กระบวนทัศน์ ทักษะ ความรู้ ความสามารถ ของอาจารย์ผู้สอนให้เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนเพื่อบรรลุตามเป้าหมายที่ถูกกำหนด ส่วนเรื่องของการควบคุมภายในนั้น ได้แก่ การที่สถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่งล้วนมีการกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายทางวิชาการของตนเอง ด้วยเหตุนี้ อาจารย์ผู้สอนจึงจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพเพื่อให้บรรลุถึงการจัดการเรียนการสอนที่เกิดสัมฤทธิผลตามเป้าหมายของสถาบันเช่นกัน
4. การตอบสนองต่อเป้าหมายการผลิตบัณฑิต
ความมุ่งมั่นที่ต้องการให้นิสิตนักศึกษามีคุณสมบัติเหมาะสม ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกด้าน ได้แก่ เป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรม มีความรู้ ความสามาถ ทักษะทางปัญญา ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการติดต่อสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่เป็นแรงผลักดันให้สถาบันอุดมศึกษาต้องหากลไกในการผลิตบัณฑิตให้มีศักยภาพบรรลุตามจุดมุ่งหมาย ซึ่งการพัฒนาตัวผู้สอนคือกระบวนการสำคัญที่ช่วยตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เนื่องจากหากผู้สอนเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ และทักษะการถ่ายทอดความรู้ รวมทั้งมีความประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดี ย่อมส่งผลให้สามารถสร้างสรรค์ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพได้
การพัฒนาศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนของอาจารย์ทำได้หลากหลายวิธีการ ได้แก่